เป็นปั๊มลมที่ใช้หลักการของปั๊มลมแบบลูกสูบโดยจะใช้ไดอะเฟรมเป็นตัวทำให้ลูกสูบและห้องดูดอากาศแยกออกจากกันนั้น หมายถึงว่า ลมที่ถูกดูดในปั๊มอัดลมชนิดนี้จึงปราศจากน้ำมันหล่อลื่น ด้วยเหตุนี้ปั๊มลม แบบนี้จึงเป็นที่นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยาและอุตสาหกรรมเคมี เป็นต้น
Pumplinghein
วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อปั๊มลม
การจะตัดสินใจซื้อปั๊มลมหรือเครื่องมือลมนั้น มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อประกอบการตัดสินใจดังนี้
>> ประการแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของแรงดันสูงสุด (max working pressure) ที่ต้องการใช้งาน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องอัดลมแบบ single stage หรือ two stage
>> ประการที่สองคือ ต้องทราบถึงปริมาณลม (max air consumption หรือ max capacity) เพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่าจะซื้อเครื่องอัดลมขนาดใหญ่หรือเล็ก เป็นระบบ reciprocating type ซึ่งจะมีทั้ง oil flood, oil free, oil less type หรือ rotary screw type
>> ประการที่สามคือ ต้องการ clean air system ขนาดไหน ซึ่งจะมี accessories เพิ่มเติมดังนี้
- ถังบรรจุลม (air tank) ถ้าต้องการเพิ่มปริมาตรลม
- เครื่องลดอุณหภูมิลม (air after coller) เพื่อลดอุณหภูมิลม
- เครื่องทำลมแห้ง (air dryer) เพื่อกำจัดน้ำออกจากระบบลมและเลือก dew point ที่ต้องการ สามารถเลือกใช้เป็น refridgeration conpressed air dryer ซึ่งจะทำให้ dew point ต่ำสุดที่ 2?C ถ้าต้องการจุด dew point ที่ต่ำกว่าก็จะต้องใช้เป็น desiccant compressed air dryer ซึ่งจะสามารถทำจุด dew point ได้ต่ำถึง
- ตัวกรองลม (air filter) สามารถกรองได้ตั้งแต่หยาบไปถึงละเอียด แยกเป็น seperator filter, air line filter, high efficiency oil removal filter และ ultra high efficiency oil removal filter ซึ่งทั้งหมดสามารถดักหรือกรองฝุ่น (ทั้งของแข็งและของเหลว) 3?0.01 ไมครอน คงเหลือน้ำมันอยู่ในปริมาณ 5?0.001 ppm w/w (mg/m?) และอาจเพิ่มตัวดักกลิ่น (activated carbon filter) สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยาหรือห้องทดลองต่าง ๆ
>> ประการแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ เรื่องของแรงดันสูงสุด (max working pressure) ที่ต้องการใช้งาน เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะซื้อเครื่องอัดลมแบบ single stage หรือ two stage
>> ประการที่สองคือ ต้องทราบถึงปริมาณลม (max air consumption หรือ max capacity) เพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่าจะซื้อเครื่องอัดลมขนาดใหญ่หรือเล็ก เป็นระบบ reciprocating type ซึ่งจะมีทั้ง oil flood, oil free, oil less type หรือ rotary screw type
>> ประการที่สามคือ ต้องการ clean air system ขนาดไหน ซึ่งจะมี accessories เพิ่มเติมดังนี้
- ถังบรรจุลม (air tank) ถ้าต้องการเพิ่มปริมาตรลม
- เครื่องลดอุณหภูมิลม (air after coller) เพื่อลดอุณหภูมิลม
- เครื่องทำลมแห้ง (air dryer) เพื่อกำจัดน้ำออกจากระบบลมและเลือก dew point ที่ต้องการ สามารถเลือกใช้เป็น refridgeration conpressed air dryer ซึ่งจะทำให้ dew point ต่ำสุดที่ 2?C ถ้าต้องการจุด dew point ที่ต่ำกว่าก็จะต้องใช้เป็น desiccant compressed air dryer ซึ่งจะสามารถทำจุด dew point ได้ต่ำถึง
- ตัวกรองลม (air filter) สามารถกรองได้ตั้งแต่หยาบไปถึงละเอียด แยกเป็น seperator filter, air line filter, high efficiency oil removal filter และ ultra high efficiency oil removal filter ซึ่งทั้งหมดสามารถดักหรือกรองฝุ่น (ทั้งของแข็งและของเหลว) 3?0.01 ไมครอน คงเหลือน้ำมันอยู่ในปริมาณ 5?0.001 ppm w/w (mg/m?) และอาจเพิ่มตัวดักกลิ่น (activated carbon filter) สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและยาหรือห้องทดลองต่าง ๆ
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
การทำงานของปั๊มลมแต่ละประเภท
การทำงานของปั๊มลมทั้ง 6 ประเภท
>> การทำงานปั้มลมแบบลูกสูบ
ลูกสูบจะมีการเคลื่อนตัวในแนวดิ่ง ทำให้เกินการดูดและอัดภายในกระบอกสูบ โดยที่ ช่วงการดูดอากาศ ลิ้นช่องดูดเข้าจะทำการเปิดออกเพื่อดึงอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบ แต่ลิ้นทางด้านอัดอากาศออกจะปิดสนิท จากนั้นเมื่อถึงช่วงการอัดอากาศ ตัวลุกสูบจะดันอากาศให้ออกทางลมออก ทำให้ลิ้นทางลมออกเปิด ส่วนทางลิ้นดูดอากาศก็จะปิดลง เมื่อลูกสูบของปั้มลมขยับขึ้นลงจึงเกิดการดูดและอัดอากาศขึ้น
ลูกสูบจะมีการเคลื่อนตัวในแนวดิ่ง ทำให้เกินการดูดและอัดภายในกระบอกสูบ โดยที่ ช่วงการดูดอากาศ ลิ้นช่องดูดเข้าจะทำการเปิดออกเพื่อดึงอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบ แต่ลิ้นทางด้านอัดอากาศออกจะปิดสนิท จากนั้นเมื่อถึงช่วงการอัดอากาศ ตัวลุกสูบจะดันอากาศให้ออกทางลมออก ทำให้ลิ้นทางลมออกเปิด ส่วนทางลิ้นดูดอากาศก็จะปิดลง เมื่อลูกสูบของปั้มลมขยับขึ้นลงจึงเกิดการดูดและอัดอากาศขึ้น
>> การทำงานปั้มลมแบบสกรู
ภายในปั้มลมอัดอากาศ จะมีโรเตอร์เกลียวสกรูคู่กัน โดยที่สกรูที่สองเพลาที่ขบกัน จะเรียกว่า เพลาตัวผู้และเพลาตัวเมีย ทั้ง 2 ตัวเป็นสกรูที่มีทิศทางการหมุนเข้าหากันทำให้อากาศจากภายนอกถูกดูดและอัดส่งไปรอบๆกระบอกปั้ม และส่งผ่านไปทางออกเข้าสู่ถังเก็บลม โดยที่ เพลาตัวผู้และเพลาตัวเมียหมุนด้วยความเร็วรอบเกือบเท่ากัน และเพลาตัวผู้จะมีการหมุนเร็วกว่าเพลาตัวเมียเล็กน้อย การไหลของแรงลมจะราบเรียบกว่าแบบลูกสูบ
ภายในปั้มลมอัดอากาศ จะมีโรเตอร์เกลียวสกรูคู่กัน โดยที่สกรูที่สองเพลาที่ขบกัน จะเรียกว่า เพลาตัวผู้และเพลาตัวเมีย ทั้ง 2 ตัวเป็นสกรูที่มีทิศทางการหมุนเข้าหากันทำให้อากาศจากภายนอกถูกดูดและอัดส่งไปรอบๆกระบอกปั้ม และส่งผ่านไปทางออกเข้าสู่ถังเก็บลม โดยที่ เพลาตัวผู้และเพลาตัวเมียหมุนด้วยความเร็วรอบเกือบเท่ากัน และเพลาตัวผู้จะมีการหมุนเร็วกว่าเพลาตัวเมียเล็กน้อย การไหลของแรงลมจะราบเรียบกว่าแบบลูกสูบ
>> การทำงานปั้มลมแบบไดอะเฟรม
ระบบอัดลมลักษณะนี้จะใช้แผ่นไดอะแฟรมเป็นตัวดูดอากาศ ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลงแผ่นไดอะแฟรมจะดูดอากาศจากภายนอกผ่านวาล์วที่จะให้ลมผ่านเข้ามาจากภายนอก เข้ามาในห้องเก็บลม และเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นสุดแผ่นไดอะแฟรมก็จะอัดอากาศภายในห้องสูบทั้งหมดผ่านวาล์วทางออกของลม เข้าไปยังถังเก็บลม
ระบบอัดลมลักษณะนี้จะใช้แผ่นไดอะแฟรมเป็นตัวดูดอากาศ ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ลงแผ่นไดอะแฟรมจะดูดอากาศจากภายนอกผ่านวาล์วที่จะให้ลมผ่านเข้ามาจากภายนอก เข้ามาในห้องเก็บลม และเมื่อลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้นสุดแผ่นไดอะแฟรมก็จะอัดอากาศภายในห้องสูบทั้งหมดผ่านวาล์วทางออกของลม เข้าไปยังถังเก็บลม
>> การทำงานปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน
ตัวเครื่องจะมีใบพัดติดอยู่กับชุดขับเคลื่อนการหมุนหรือเรียกว่า โรเตอร์ และวางให้เยื่้องศูนย์ภายในของเรือนสูบ เมื่อมีการหมุนของโรเตอร์ใบพัดก็จะอัดอากาศจากพื้นที่กว้างไปสู่ที่แคบกว่า ดูดอากาศเข้า ด้วยการหมุนที่คงที่และอัดอากาศออกทางช่องที่ลมออก
ตัวเครื่องจะมีใบพัดติดอยู่กับชุดขับเคลื่อนการหมุนหรือเรียกว่า โรเตอร์ และวางให้เยื่้องศูนย์ภายในของเรือนสูบ เมื่อมีการหมุนของโรเตอร์ใบพัดก็จะอัดอากาศจากพื้นที่กว้างไปสู่ที่แคบกว่า ดูดอากาศเข้า ด้วยการหมุนที่คงที่และอัดอากาศออกทางช่องที่ลมออก
>> การทำงานปั้มลมแบบใบพัดหมุน
ใบพัดหมุน 2 ตัวจะหมุนที่ทางตรงกันข้ามกัน เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน ทำให้อากาศจะถูกดูดจากทางลมเข้าไปยังอีกช่องทางฝั่งลมออก โดยไม่ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว
ใบพัดหมุน 2 ตัวจะหมุนที่ทางตรงกันข้ามกัน เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน ทำให้อากาศจะถูกดูดจากทางลมเข้าไปยังอีกช่องทางฝั่งลมออก โดยไม่ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว
>> การทำงานปั้มลมแบบกังหัน
เครื่องอัดลมทั้งสองแบบนี้ใช้หลักการของกังหันใบพัด การเคลื่อนที่ของโรเตอร์ด้วยความเร็วสูง อากาศจะถูกดูดผ่านใบพัดด้านหนึ่งและจะอัดอากาศไปยังใบพัดอีกด้านหนึ่งโดยไหลตามแกนเพลาไปยังอีกฝั่ง สามารถกระจายลม 170-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min)
เครื่องอัดลมทั้งสองแบบนี้ใช้หลักการของกังหันใบพัด การเคลื่อนที่ของโรเตอร์ด้วยความเร็วสูง อากาศจะถูกดูดผ่านใบพัดด้านหนึ่งและจะอัดอากาศไปยังใบพัดอีกด้านหนึ่งโดยไหลตามแกนเพลาไปยังอีกฝั่ง สามารถกระจายลม 170-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min)
ประเภทของปั๊มลม
ปั้มลมสามารถแบ่ง 6 ประเภท
1. ปั้มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
เป็นเครื่องอัดลมหรือปั้มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั้มลมที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากความสามารถอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) ทำให้ปั้มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว ข้อดีของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบสายพาน
เป็นเครื่องอัดลมหรือปั้มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั้มลมที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากความสามารถอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) ทำให้ปั้มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว ข้อดีของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบสายพาน
2. ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำระบายความร้อนหากเป็นเครื่องขนาดใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำระบายความร้อนหากเป็นเครื่องขนาดใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การทำงานของลูกสูบและหัวดูดอากาศแยกออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง ข้อดีคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความปลอดภัยมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่เงียบกว่าแบบลูกสูบ
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การทำงานของลูกสูบและหัวดูดอากาศแยกออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง ข้อดีคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความปลอดภัยมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่เงียบกว่าแบบลูกสูบ
4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
ปั้มลมชนิดนี้ข้อดีคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความสมำเสมอการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
ปั้มลมชนิดนี้ข้อดีคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความสมำเสมอการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
5. ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
เครื่องนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน อากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตร ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ต้นทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นขณะทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
เครื่องนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน อากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตร ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ต้นทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นขณะทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
6. ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)
ปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ลักษณะเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ลักษณใบพัดจึงมีส่วนสำคํญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย
ปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ลักษณะเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ลักษณใบพัดจึงมีส่วนสำคํญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย
วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557
การดูแลรักษาปั๊มลมอย่างถูกวิธี
ปั๊มลมที่ใช้งานอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นปั๊มลมขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้องมีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีถึงจะได้
มีปั๊มลมที่อายุการทำงานที่ยาวนานขึ้น
1.สายพาน สายพานต้องมีความการยืดหยุ่น ประมาณ1/2 นิ้ว ถ้าสังเกตุว่ามีการแตกร้าว
ควรเปลี่ยนทันที
2.น้ำมันเครื่อง สังเกตุจากช่องดูน้ำมันเครื่องด้านล่างของลูกสูบ น้ำมันต้องอยู่ระดับกลางช่อง
1.สายพาน สายพานต้องมีความการยืดหยุ่น ประมาณ1/2 นิ้ว ถ้าสังเกตุว่ามีการแตกร้าว
ควรเปลี่ยนทันที
2.น้ำมันเครื่อง สังเกตุจากช่องดูน้ำมันเครื่องด้านล่างของลูกสูบ น้ำมันต้องอยู่ระดับกลางช่อง
จะต้องไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป เปลี่ยนถ่ายทุก 6 เดือน หรือทุก 1,000 ชั่วโมงใช้
น้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 40
3. กรองอากาศ ควรนำออกมาเป่าทำความสะอาดทุก 2 เดือน หรือเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
4.มอเตอร์และจุดต่อสายไฟ อย่าให้มอเตอร์โดนน้ำและความชื้น ส่วนจุดต่อสายไฟต่างๆต้อง
ตรวจดูว่ายึดติดแน่นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการ spark ในระหว่างที่มอเตอร์ทำงาน
5.ถังเก็บลม ถังเก็บลม ควรถ่ายน้ำที่ขังอยู่ภายในถังออกทุกๆวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีละอองน้ำ
ออกมาในขณะใช้ลมและป้องกันสนิมที่จะเกิดขึ้นภายในถังลม และควรวางปั๊มลมให้ห่างจาก
น้ำมันเครื่องเบอร์ SAE 40
3. กรองอากาศ ควรนำออกมาเป่าทำความสะอาดทุก 2 เดือน หรือเปลี่ยนทุกๆ 6 เดือน
4.มอเตอร์และจุดต่อสายไฟ อย่าให้มอเตอร์โดนน้ำและความชื้น ส่วนจุดต่อสายไฟต่างๆต้อง
ตรวจดูว่ายึดติดแน่นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการ spark ในระหว่างที่มอเตอร์ทำงาน
5.ถังเก็บลม ถังเก็บลม ควรถ่ายน้ำที่ขังอยู่ภายในถังออกทุกๆวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีละอองน้ำ
ออกมาในขณะใช้ลมและป้องกันสนิมที่จะเกิดขึ้นภายในถังลม และควรวางปั๊มลมให้ห่างจาก
กำแพงประมาณ 30 ซ.ม.เพื่อการระบายความร้อนที่ดี
วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557
การทำความสะอาดปั๊มลม
วันนี้มีสาระดีๆมากฝากครับ เกี่ยวกับเรื่อง "การทำความสะอาดปั๊มลม" เมื่อมีการใช้งานปั๊มลมเสร็จหลังจากการทำงานแล้วนั้น ก็ต้องมีการทำความสะอาดตัวปั๊มลมก่อนทำการเก็บ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของปั๊มลมเพื่อกันสิ่งตกค้างจะเข้าไปอุดตันปากท่อลม โดยการทำความสะอาดด้วยท่อเปล่าอาจจะทำให้มีฝุ่นหรือเศษหินกระเด็นเข้าสู่ตาได้ เพราะเนื่องจากเมื่อแรงลมปะทะกับวัตถุไม่ว่าชนิดใดยิ่งเป็นพวกหินด้วยแล้วเมื่อโดนแรงลมที่สูงเข้าไปเมื่อกระเด็นหลุดออกมาจากปลายท่อเป่าลม เราเองไม่สามารถคาดคะเนหรือควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ตามแรงอัดของลมของวัตถุเหล่านั้นได้ ซึ่งมันอาจจะกระเด็นเข้าตาเราเองไม่ก็กระเด็นโดนส่วนอื่นของร่างกายเรา หรือกระเด็นออกไปโดนคนอื่นที่เดินอยู่หรืออยู่รอบๆ บริเวณนั้น ยิ่งหากบริเวณนั้นมีเด็กเล็กๆ อยู่ก็ยิ่งต้องระวังไว้ให้มากเพราะเด็กเหล่านั้นไม่ได้มีการระวังใดๆ ซึ่งอาจจะทำให้เด็กบาดเจ็บหรือตาบอดได้ เพราะฉะนั้นการจะทำความสะอาดปั๊มลมต้องระมัดระวังห่างไกลจากคนรอบข้างและหากเป็นไปได้ควรใส่แว่นตาป้องกันการกระเด็นของเศษต่างๆ จากเครื่องเป่า เมื่อทราบถึงวิธีการทำความสะอาดปั๊มลมกันแล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะครับ
วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2557
ข้อดีของปั๊มลม lingheinthailand
ข้อดีของ ปั๊มลม ยี่ห้อ lingheinthailand
- สามารถปรับความเร็วได้ ทำให้ได้ความเร็วที่เหมาะสมตามความต้องการในการทำงาน
- ควบคุมการทำงานแบบ Closed Loop Control เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพคงที่อยู่ตลอดเวลา
- ลดต้นทุนในการผลิต
- สามารถปรับอุณหภูมิในการใช้งานได้หลากหาย
- ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องจักร และป้องกันการสูญเสียมอเตอร์ของปั๊มลม
- ลดการการชากไฟฟ้าตอนเริ่มต้น ทำให้ลดค่าความต้องการพลังไฟฟ้า
- ประหยัดพลังงาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)